Friday, December 25, 2015

ห๊ะ ! นักวิทย์พบสิงโตเป็นทอม แสดงพฤติกรรม-คำรามราวเป็นตัวผู้




        นักวิทยาศาสตร์จากแอฟริกาใต้ พบสิงโตเพศเมียมีพฤติกรรมสลับเพศ ทั้งแสดงท่าทาง-คำรามเหมือนเพศผู้ และมีการเลียนแบบต่อกันจากรุ่นไปสู่รุ่น

          ธรรมชาติ ของมนุษย์มีผิดแปลกเปลี่ยนแปลงไปได้ แต่จะเป็นอย่างไรหากจะเกิดขึ้นกับพวกสัตว์เจ้าป่าอย่างสิงโต เมื่อวันที่ 23 ธันวาคาคม 2558 เว็บไซต์เมโทร ได้เผยรายงานของนักวิทยาศาสตร์จากแอฟริกาใต้ ระบุว่า เจ้ามาโมริริ สิงโตเพศเมียตัวหนึ่งที่อยู่ในบริเวณดินดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโอคาวังโก ในประเทศบอตสวานา ถูกพบว่ามีพฤติกรรมผิดแปลกไปจากเพศที่แท้จริงของมัน ทั้งแสดงท่าทางและคำรามราวกับเป็นเพศผู้


           ผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมสิงโตเผยว่า ลักษณะของเจ้ามาโมริริเป็นการพัฒนาพฤติกรรมให้สอดคล้องกับแวดล้อมเพื่อเป็น การเอาตัวรอด ซึ่งมาโมริริอยู้ในฝูงที่ส่วนใหญ่มีแต่สิงโตเพศผู้ นอกจากมันแล้ว ที่บริเวณดินดอนดังกล่าวยังพบสิงโตเพศเมียที่มีลักษณะพฤติกรรมคล้ายกับเจ้า เจ้ามาโมริริ อีกถึง 5 ตัวด้วยกัน โดยพฤติกรรมนี้ถูกจัดอยู่ในประเภทที่เรียกว่า "เพศลื่นไหล" (genderfluid) คือ พฤติกรรมเป็นทั้งสองเพศร่วมกัน


          นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า ปรากฏการณ์เช่นนี้เป็นการบิดเบือนวิวัฒนาการของมัน และลูกหลานของมันรุ่นต่อไปก็จะมีการเลียนแบบพฤติกรรมเช่นนี้ด้วยเช่นกัน

          ทั้งนี้ ยังมีสัตว์ชนิดอื่นที่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในลักษณะเดียวกันนี้อีกด้วย อย่างเช่น กวาง ที่ตัวผู้บางตัวไม่มีเขางอกออกมา เพื่อแฝงรวมฝูงและแอบผสมพันธุ์กับตัวเมียอย่างลับ ๆ ในขณะที่ตัวผู้ทั่วไปจะมีการต่อสู้ข่มเพศผู้ด้วยกัน เพื่อแย่งชิงสิทธิ์ในการผสมพันธุ์กับตัวเมีย เป็นต้น



http://hilight.kapook.com/view/130831

Friday, December 18, 2015

แจ่มเลย คอนเซ็ปต์ที่นั่งสุดพิเศษ โดมชมวิวบนหลังคาเครื่องบิน




          บริษัทเทคโนโลยีการบิน Windspeed เสนอคอนเซ็ปต์สุดว้าว ที่นั่ง VIP สุดพิเศษบนเครื่องบิน ชมวิวท้องฟ้ากว้างใหญ่ได้อย่างเป็นส่วนตัวบนโดมเหนือหลังคาเครื่องบิน

          เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2558 สำนักข่าว CNN รายงานว่า วินด์สปีด (Windspeed) บริษัทเทคโนโลยีการบิน ผุดคอนเซ็ปต์ที่นั่งบนเครื่องบินในฝันของผู้ชื่นชอบการชมวิวบนเครื่องบิน ไม่ต้องเกาะกระจกนั่งชมวิวผ่านหน้าต่างเล็ก ๆ อีกต่อไปแล้ว แต่สามารถชมวิวท้องฟ้าได้จากโดมพิเศษ เหนือหลังคาเครื่องบิน

          โดย โดมพิเศษสำหรับการชมวิวบนเครื่องบินนี้ มีลักษณะเป็นโดมกระจกใสยื่นออกมาบนหลังคาเครื่องบิน ส่วนวิธีการขึ้นไปนั่งในโดมนั้น สามารถติดตั้งได้ 2 ระบบ ทั้งระบบบันไดและระบบลิฟต์ยกที่นั่งขึ้นไปหยุดบนนั้น และเมื่อนั่งชมวิวอยู่ในโดมแล้ว ก็สามารถหมุนที่นั่งได้ 360 องศา เพื่อชมวิวโดยรอบตามต้องการ เป็นเทคโนโลยีที่แจ่มว้าวมากเลยทีเดียว


          ที่นั่งพิเศษในการชมวิวเหนือตัว เครื่องบินนี้ มีชื่อว่า SkyDeck ซึ่งทางวินด์สปีดบอกว่า สามารถติดตั้งระบบนี้ได้ทั้งในเครื่องบินพาณิชย์และเครื่องบินส่วนตัว ส่วนกระจกที่นำมาทำเป็นโดมครอบนั้น เป็นวัสดุที่แข็งแรงมากพอที่จะรับมือกับการบินชนนก หรือการปะทะอื่น ๆ และสามารถป้องกันรังสียูวีได้

          "ตัวเลือก ด้านความบันเทิงบนเครื่องบินนั้นไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ มานานหลายสิบปีแล้ว เราอยากจะเสนอความบันเทิงใหม่ ๆ บนเครื่องบิน เพื่อยกระดับความบันเทิงบนเครื่องบินให้สูงขึ้นไปอีกขั้น ผู้โดยสารจะได้ไม่เบื่อเมื่อต้องบินไปไหนไกล ๆ " ตัวแทนจากวินด์สปีด กล่าว

 
          อย่างไรก็ดีตอนนี้เทคโนโลยี SkyDeck ยังคงเป็นแค่คอนเซ็ปต์ที่จะต้องได้รับการทดสอบต่อไป แต่ก็คาดว่าหากคอนเซ็ปต์นี้ได้รับการรับรองเมื่อไร ก็คงจะได้เห็นเครื่องบินที่มีโดมครอบแบบนี้บินบนฟ้าแน่นอน



http://hilight.kapook.com/view/130510

Thursday, December 17, 2015

ชาวบ้านสยอง พบซากหนังสุนัขนับร้อย ตากเกลื่อนใต้สะพาน




         ชาวบ้านในประเทศจีนสุดสยอง หลังเจอซากหนังสุนัขมากกว่า 100 ตัว ถูกถลกหนังนำมาตากกางเกลื่อนกลาดใต้สะพาน เจ้าหน้าที่ตำรวจคาด เตรียมไปทำเครื่องหนังขาย

          เมื่อวันที่  16 ธันวาคม 2558 เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ มีรายงานว่า ชาวบ้านท้องถิ่นเมืองเหอเฟย์ มณฑลอานฮุย ทางตะวันออกของจีน มีอันต้องช็อกไปตาม ๆ กัน เมื่อพวกเขาพบซากหนังสุนัขจำนวนเกินร้อยตัว ถูกถลกแล้วนำมาตากกางเกลื่อนกลาด จนแห้งเกาะติดพื้นทางเดินใต้สะพานแห่งหนึ่ง


             จากรายงานระบุว่า เส้นทางดังกล่าวนี้ชาวบ้านในพื้นที่มักจะใช้ในการสัญจรเดินผ่านไป-มายามค่ำ คืน ซึ่งพวกเขายอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยเห็นซากหนังสุนัขถูกถลกนำมาทิ้งไว้ที่ แห่งนี้บ้างแล้ว แต่ที่ต้องตกใจมากเป็นอย่างยิ่งก็คือ ภายในเวลาไม่ถึง 1 เดือน จำนวนซากหนังของมันที่ถูกนำมาตากทิ้งไว้มีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เห็นแล้วดูเหมือนกับฉากในภาพยนตร์สยองขวัญเลยทีเดียว
 
          ทั้งนี้สื่อหลักของประเทศจีนได้รายงานเหตุการณ์เดียวกันนี้ โดยระบุว่า มีการพบซากหนังสุนัขที่ถูกถลกตากไว้ที่นี่มากถึง 500-600 ชิ้น ชาวบ้านจึงพากันผวาหวาดกลัวจนแทบไม่กล้าเดินผ่านเส้นทางดังกล่าวนี้ โดยเฉพาะในเวลากลางคืน โดยเฉพาะชาวบ้านบางรายที่ไม่ทราบและได้เดินผ่านมาพร้อมเด็ก เด็กถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจกลัว


             ภายหลังสื่อนำเสนอข่าวออกไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รุดเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและทำการสืบสวน โดยทางเจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นฝีมือของใครบางคนที่นำหนังสุนัขมาตากกางไว้ที่ นี้เพื่อเตรียมนำไปผลิตเป็นเครื่องหนังขาย

          ทั้งนี้ประเทศจีนเป็นที่รู้กันดีว่า เป็นประเทศที่มีการนำเนื้อสุนัขมารับประทานกันอย่างกว้างขวาง แม้ว่ามันจะเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ที่สุดของมนุษย์ แต่สำหรับชาวจีนแล้วเป็นเพียงอาหารที่พร้อมทานได้เสมอ



ภาพจาก news.163.com
http://hilight.kapook.com/view/130500

Tuesday, December 15, 2015

ดาวเคราะห์น้อยเฉียดโลกรับคริสต์มาสอีฟ ลือทำโลกแผ่นดินไหว




ดาวเคราะห์น้อย 2003 SD220 หรือ 163899 โคจรใกล้โลกที่สุดในวันคริสต์มาสอีฟนี้ ผุดข่าวลือสุดมโน อาจทำให้เกิดแผ่นดินไหว

                เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า ดาวเคราะห์น้อยขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 กิโลเมตร กำลังจะโคจรเข้าใกล้โลกในระยะใกล้ที่สุดของวงโคจร ในวันคริสต์มาสอีฟ หรือวันที่ 24 ธันวาคมนี้ ผุดข่าวลือการมาเยือนของดาวเคราะห์น้อยอาจทำให้เกิดแผ่นดินไหว ด้านผู้เชี่ยวชาญแจงเป็นไปไม่ได้ อย่าเชื่อเสียงลือเสียงเล่าอ้างใด

                ดาวเคราะห์น้อยดวงดังกล่าว คือ 2003 SD220 หรือ ดาวเคราะห์น้อย 163899 เป็นวัตถุอวกาศขนาดประมาณ 2.5 กิโลเมตร เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 28 กิโลเมตรต่อวินาที จะโคจรเข้ามาใกล้โลกในระยะใกล้ที่สุดของวงโคจร ด้วยระยะห่างประมาณ 11 ล้านกิโลเมตร หรือประมาณ 28 เท่าของระยะห่างโลกกับดวงจันทร์ ซึ่งแน่นอนว่าระยะห่างขนาดนั้นไม่สามารถส่งผลใด ๆ ต่อโลกได้

                แม้ว่าจะโคจรเข้ามาใกล้โลก แต่คนบนโลกจะไม่สามารถมองเห็นดาวเคราะห์น้อย 163899 ได้ด้วยตาเปล่า ต้องสังเกตผ่านกล้องโทรทรรศน์เท่านั้น


                   ในขณะเดียวกันมีเว็บไซต์ต่าง ประเทศบางแห่งได้เผยแพร่ข่าวลือที่ไร้ซึ่งเหตุผล ระบุว่าดาวเคราะห์น้อยดวงนี้อาจจะทำให้เกิดแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิดบนโลกได้ ทำให้นายเอ็ดดี้ อิริแซรี่ จากสมาคมดาราศาสตร์แคริบเบียน ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่ชี้ว่าการโคจรผ่านของดาวเคราะห์น้อยจะสามารถส่งผลต่อความเคลื่อนไหวทาง ธรณีวิทยาบนโลกได้แบบนั้น เว้นแต่ว่ามันจะพุ่งชนโลก

                 จากการเปิดเผยขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NASA) ระบุว่า หลังจากดาวเคราะห์น้อย 163899 โคจรใกล้โลกมากที่สุดของวงโคจรในรอบนี้แล้ว ดาวเคราะห์น้อยดวงนี้จะโคจรกลับมาใกล้โลกอีกครั้งในปี 2018 และมันจะไม่ชนโลก ไม่สามารถทำอันตรายใด ๆ ต่อโลกได้ในช่วงอย่างน้อย 200 ปีต่อจากนี้


ภาพจาก Arecibo Observatory/NASA/NSF
http://hilight.kapook.com/view/130401