Wednesday, June 29, 2016

น่ารัก เหมียวน้อยปีนตู้กระจกไปเล่นกับตูบน้อยตู้ข้าง ๆ ก็มันเหงานี่นา




             มาดูคลิปลูกแมวซ่า แสนฉลาด แอบปีนตู้กระจกข้ามไปเล่นกับลูกสุนัขอีกตู้ที่อยู่ข้างกัน ส่วนอีกฝ่ายเห็นเพื่อนมาก็ดี๊ด๊าใหญ่เชียว เย้ ๆ ป๋มมีเพื่อนแล้ว

             เห็นทีแบบนี้คงต้องเรียกว่า ไม่มีอุปสรรคใดมาขวางกั้นมิตรภาพต่างสายพันธุ์ของเจ้า 2 ตัวน้อยนี้ได้จริง ๆ เลยล่ะ เมื่อลูกแมวตัวนี้กล้าหาญแบบสุด ๆ ลงทุนปีนไต่ตู้จกกระจกฝั่งตัวเองเพื่อไปเล่นกับลูกสุนัขที่อยู่ตู้ข้าง ๆ เกิดเป็นคลิปวิดีโอน่ารัก ๆ ให้ได้ชมกันในวันนี้

             โดยเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2559 เว็บไซต์ The Dodo ได้นำคลิปวิดีโอจากร้านขายสัตว์เลี้ยงแห่งหนึ่งในไต้หวันมาเผยให้ได้ชม ในคลิปถ่ายให้เห็นลูกแมวกับสุนัขคู่หนึ่ง พวกมันถูกจับแยกให้อยู่คนละตู้ตามลำพัง แต่คงเป็นเพราะเจ้าเหมียวน้อยมันเหงาหรืออาจจะอยากมีเพื่อนเล่นด้วย มันเลยจัดการปีนตู้กระจกขึ้นมา ค่อย ๆ ไต่ตัวไปที่ตู้ด้านข้างลูกสุนัขอยู่

  
          ส่วนเจ้าตูบน้อยที่ตอนแรกกำลังนอนเหงาหงอยอยู่ในตู้ เมื่อเห็นว่าเพื่อนเหมียวพยายามจะปีนมาเล่นด้วย ก็ออกอาการดีใจออกนอกหน้า ลุกขึ้นมาดี๊ด๊าส่ายหางไปมาใหญ่เลย แถมยังพยายามกระโดดเหมือนจะช่วยพาเพื่อนลงมาในตู้ตัวเอง กวนสมาธิเจ้าเหมียวอยู่พักหนึ่ง ก่อนที่ในที่สุดเจ้าเหมียวจะกระโดดตุ๊บลงไปในตู้ได้สำเร็จ

 
             เอาล่ะ และแล้วทั้งคู่ก็ได้อยู่ด้วยกัน แฮปปี้เอนดิ้งประหนึ่งนิยายเลยนะเนี่ย แหม...เก่งจริง ๆ เลยเจ้าเหมียวซ่า

http://pet.kapook.com/view151438.html

Monday, June 27, 2016

ผัวมีชู้-เบื่อเมีย จับเมียมัดหลังรถตู้พร้อมลูก 5 เดือน ปล่อยจมคลองดับอนาถ




           หญิงชาวอินเดียและทารกวัย 5 เดือน ถูกพบเป็นศพในลำคลอง หลังผู้เป็นสามีมีชู้ เลยกำจัดเธอด้วยการลงมือมัดเธอและลูกน้อยไว้ท้ายรถตู้ก่อนผลักรถตกคลอง จมน้ำเสียชีวิตทั้งแม่ทั้งลูก

            วันที่ 27 มิถุนายน 2559 เว็บไซต์เมโทร เปิดเผยข่าวชวนสลดใจจากประเทศอินเดีย หญิงสาววัย 20 ปี พบเป็นศพในคลองมุนัก (Munak) ชานเมืองเดลี หลังจมน้ำเสียชีวิตพร้อมทารกวัย 5 เดือนซึ่งเป็นลูกสาว

            นายอนิล กุมาร์ (Anil Kumar) ถูกตำรวจควบคุมตัวฐานฆาตกรรม หลังญาติ ๆ ของ เฮมลาตา ชาร์มา (Hemlata Sharma) วัย 20 ปี ภรรยาของเขา ตั้งข้อสงสัยว่าเขาคือผู้ที่ฆ่าภรรยาและลูกน้อยวัย 5 เดือนด้วยมือของตัวเอง

            ก่อนหน้านี้ นายอนิลอ้างว่า เขาขับรถตู้ตกลงไปในน้ำ แต่สามารถกระโดดหนีออกจากรถและว่ายน้ำออกมาได้ ขณะที่เฮมลาตา ภรรยา และ พริติกา ลูกสาววัย 5 เดือน จมน้ำเสียชีวิต

 
            ด้านผู้เป็นพ่อของนางเฮ มลาตา เปิดเผยสาเหตุที่ญาติ ๆ ตั้งข้อสงสัยว่านายอนิลน่าจะเป็นฆาตกร เนื่องจากนางเฮมลาตาบังเอิญรู้เรื่องที่นายอนิลนอกใจ แอบลักลอบมีสัมพันธ์สวาทกับน้องสาวของเธอเอง โดยญาติ ๆ เชื่อว่า นายอนิลจับภรรยาและลูกมัดทิ้งไว้ท้ายรถตู้ ก่อนจะผลักรถตกคลอง กลายเป็นอุบัติเหตุสุดแนบเนียน

            ในขณะที่ผู้เป็นลุงของเหยื่อสาวเปิด เผยว่า นายอนิลคือคนแรกที่แจ้งข่าวการเสียชีวิตของภรรยาให้ที่บ้านทราบ โดยโทรศัพท์จากตู้สาธารณะซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุออกไปราว 2 กิโลเมตร ซึ่งน่าแปลกที่เขาลงทุนเดินเท้าเพื่อแจ้งข่าวให้คนที่อยู่ไกลได้ทราบ แทนที่จะขอความช่วยเหลือโดยการโบกรถราซึ่งแล่นผ่านไปมาบริเวณนั้น

            อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และกำลังรอผลชันสูตรพลิกศพของผู้ตายอยู่ในขณะนี้


ภาพจาก ทวิตเตอร์ @danand0743
ภาพจาก thehindu
http://hilight.kapook.com/view/138726

Saturday, June 25, 2016

คลิปโหด เมียหลวงสุดแค้นพาแม่บุกตบเมียน้อย คว้ากรรไกรมาตัดผม-ถอดเสื้อ




                เมียหลวงแค้นโหด พาแม่บุกตบเมียน้อยกลางที่สาธารณะ ทั้งกระหน่ำตบ จิก-ตัดผม และพยายามถอดเสื้อผ้า

                เว็บไซต์เซี่ยงไฮ้อิสต์ เผยคลิปวิดีโอสุดช็อกจากประเทศจีน เมื่อเมียหลวงได้พาแม่บุกทำร้ายเมียน้อยอย่างไม่ปรานีกลางที่สาธารณะ ทั้งจิกผมลากลงมากองอยู่ที่พื้น ก่อนจะใช้กรรไกรตัดผมเมียน้อย และพยายามถอดเสื้อผ้าออก ชาวเน็ตจีนแห่แชร์คลิปและนำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์มากมาย

                เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2559 หญิงเมียหลวงรายหนึ่งได้พาแม่ไปดักรอเมียน้อยของสามีที่ลานจอดรถ และเมื่อได้พบกับเป้าหมายซึ่งนั่งอยู่ในรถคันหนึ่ง เมียหลวงขาโหดและแม่ก็ได้เข้าไปตบตีไม่ยั้ง ก่อนจิกผมเมียน้อยไร้ทางสู้ลากลงมานั่งกองอยู่ที่พื้น

                จากนั้นฝ่ายเมียหลวงก็ยังคงระบายแค้นด้วยการกระหน่ำตบหน้าของเมียน้อยอย่าง ต่อเนื่อง ก่อนใช้กรรไกรมาตัดผมเมียน้อยออกแล้วตบตีต่อ ส่วนฝ่ายแม่ก็พยายามถอดเสื้อผ้าของเหยื่อออก เสียงร้องไห้ของเหยื่อดังระงม

                หลังจากคลิปวิดีโอนี้ถูกโพสต์ลงบนโลกออนไลน์ ก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ส่วนใหญ่โทษทั้งฝ่ายเมียหลวงและเมียน้อย โดยชาวเน็ตจีนมีความเห็นว่า แม้เมียน้อยจะผิดจริงเรื่องลักกินขโมยกินผู้ชายของชาวบ้าน แต่จะโทษเธอฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ ต้องโทษผู้ชายซึ่งเป็นตัวการของปัญหาทั้งหมด และเรื่องนี้สิ่งที่น่าละอายที่สุดไม่ใช่การที่เมียน้อยแย่งสามีใคร แต่เป็นการที่ฝ่ายเมียหลวงพาแม่มาทำร้ายร่างกายเมียน้อยในที่สาธารณะ ช่างไร้อารยะเสียจริง

ภาพจาก Tong Zhao
http://hilight.kapook.com/view/138646

Thursday, June 23, 2016

มนุษย์หนอมนุษย์ พรากลูกหมีจากอกแม่ สุดท้ายประกาศขายเพราะไม่มีเงินเลี้ยง




            เผยเรื่องราวสุดสลดใจ ลูกหมีหมาถูก พรากจากอกแม่แต่เล็ก มาขายให้กับมนุษย์ผู้ชอบเลี้ยงสัตว์ แต่สุดท้ายเจ้าของก็ประกาศขายมันเพราะรับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว จนหวิดตกเป็นอาหารมนุษย์

             จากรายงานของเว็บไซต์ The Dodo เมื่อ วันที่ 22 มิถุนายน 2559 ระบุว่า  "มิสเวียงจันทน์" ลูกหมีหมาไร้เดียงสาตัวนี้ ถูกพรากมาจากอกแม่ตั้งแต่อ้อนแต่ออก เพื่อขายในตลาดมืดที่ประเทศลาว จากนั้นก็มีครอบครัวหนึ่งมาซื้อมันไปเลี้ยง โดยคิดว่าจะสามารถเลี้ยงมันให้น่ารักน่าเอ็นดูได้เหมือนหมาแมวทั่วไป แต่แล้ววันหนึ่งพวกเขาก็พบว่าตัวเองคิดผิด เพราะหมีไม่ได้เลี้ยงง่ายเหมือนหมาแมว ซ้ำยิ่งโตยิ่งกินจุ จนในที่สุดเจ้าของก็รับภาระค่าใช้จ่ายไม่ไหว ตัดสินใจประกาศขายมันราวกับมันไม่มีชีวิตจิตใจ อยากทำอะไรกับมันก็ได้

  
            เมื่ออยากปัดภาระไปให้พ้นตัว เจ้าของมิสเวียงจันทน์ก็ได้พิจารณาที่จะขายมันให้กับเศรษฐีนักธุรกิจชาวจีน แน่นอนว่าชาวจีนไม่ได้ต้องการมิสเวียงจันทน์ไปเป็นสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ หากเป็นที่ทราบกันดีว่าหมีสีดำนั้นมีราคาค่าตัวสูงพอสมควรในตลาดมืด เนื่องมาจากความเชื่อของชาวจีน เกี่ยวกับการนำหมีดำไปทำเป็นอาหารและยาอายุวัฒนะ

             แต่เคราะห์ดีของมิสเวียงจันทน์ ที่เจ้าของมันยังไม่ทันจะขายให้กับเศรษฐีจีน ก็มีกลุ่มสิงห์นักบิดผู้พิทักษ์สัตว์กว่า 20 คน ยอมขี่รถมาคุยกับเจ้าของหมีเสียก่อนโดยเกลี้ยกล่อมให้ทางเจ้าของยอมมอบมิสเวียงจันทน์แก่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าแห่งประเทศลาวแทน

  
            ตอนนี้มิสเวียงจันทน์พักพิงอยู่กับศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าแล้ว และเนื่องจากมันอาศัยอยู่กับมนุษย์ตั้งแต่แรกเกิด ทำให้มันสูญเสียความสามารถในการหาอาหารด้วยตัวเองไปแล้ว พวกเขาจึงไม่สามารถปล่อยมันคืนสู่ป่าได้อีกตลอดชีวิต

 
             ฉะนั้น ทางศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าจึงพยายามระดมทุนเพื่อสร้างที่อยู่ถาวรให้กับมิส เวียงจันทน์จนกว่ามันจะโตเต็มวัย เพราะสถานที่ดูแลหมีของพวกเขาตอนนี้เต็มไปด้วยหมีโต ที่ต่างก็ถูกช่วยเหลือมาจากขบวนค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมายเช่นกัน

 
             อนึ่ง หมีหมาหรือหมีคน (Sun bear) เป็นหนึ่งในหมีที่ถูกคุกคามมากที่สุด อันเนื่องมาจากการบุกรุกป่าซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของพวกมัน รวมถึงการล่าในขบวนการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย ในประเทศไทย หมีหมาถูกจัดให้เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวน และคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535











http://hilight.kapook.com/view/138581