Friday, January 27, 2017

หนุ่มเจอตูบหลงทาง ตั้งใจพาส่งเจ้าของ แต่พอได้เห็นป้ายห้อยคอ เปลี่ยนใจแทบไม่ทัน




          หนุ่มเจอสุนัขหลงมาเดินตามลำพัง ตั้งใจช่วยพาส่งคืนเจ้าของเต็มที่ แต่พอได้เห็นข้อความบนป้ายห้อยคอเท่านั้นแหละ ทำเอาเปลี่ยนใจแทบไม่ทัน...น่าเอ็นดูจริง ๆ เลยเชียว

          เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2560 เว็บไซต์เดอะโดโด้ เผยเรื่องราวของ เทเลอร์ วิลสัน หนุ่มชาวอเมริกัน จากรัฐเคนทักกี กับเจ้าตูบตัวหนึ่งที่เขาบังเอิญไปพบและทำให้เขาได้เจอเรื่องราว ๆ น่ารัก ๆ ชวนยิ้มที่ทำให้ประทับใจ โดยเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา วิลสันได้ไปหยุดเติมน้ำมันที่ปั๊มแห่งหนึ่งใกล้ ๆ บ้าน และเขาก็ได้พบกับเจ้าสุนัขลาบราดอร์สีน้ำตาลอ่อนตัวหนึ่ง แม้ว่าที่คอจะมีปลอกคอ แต่มันกลับเดินเตร็ดเตร่อยู่ตัวเดียวตามลำพัง

 
          จากนั้นเจ้าสุนัขตัวนี้มันก็เดินเข้ามาหาวิลสัน มายืนส่งสายตามองมา แล้วก็ตามมานั่งใกล้ ๆ กับเขา ตามสัญชาตญาณแล้ว วิลสันจึงมั่นใจว่า เจ้าสุนัขตัวนี้ต้องพลัดหลงกับเจ้าของ และมันคงต้องการความช่วยเหลือจากเขาอย่างแน่นอน จึงไม่รอช้าตั้งใจเดินเข้าไปช่วยพามันไปส่งคืนเจ้าของโดยทันที

          สิ่งแรกที่วิลสันทำก็คือ ไปเช็กดูที่ปลอกคอเพื่อดูหมายเลขติดตัวของมัน เพื่อจะหาที่อยู่หรือเบอร์โทรศัพท์ของเจ้าของ แต่แล้วเขากลับพบข้อความที่ทำให้เขาต้องประหลาดใจเป็นอย่างมากจนถึงกับยิ้มออกมาเลยทีเดียว


"ผมชื่อดิว ผมไม่ได้หลงทาง ผมชอบเดินตะลอนเที่ยว ช่วยบอกให้ผมกลับบ้านที"

          ได้เห็นแบบนี้แล้วรู้เลยว่า เจ้าตูบดิวตัวนี้คงจะชอบแอบมาเดินเที่ยวเล่นจนเจ้าของต้องสลักข้อความเขียนติดไว้แบบนี้ และเชื่อว่าก่อนหน้านี้ก็คงจะมีคนเข้าใจผิดแบบเขาไม่น้อยเหมือนกัน แต่ก่อนที่วิลสันจะบอกให้เจ้าดิวกลับบ้าน เขาก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปหยอกเล่นและกอดมันสักหน่อย 

 
          วิลสันเผยว่า ถึงแม้ว่าขนของมันจะทำให้ตัวเขาเปียกฝนไปด้วยนิด ๆ แต่เมื่อได้เห็นความน่าเอ็นดูของมันแล้ว มันก็อดไม่ได้จริง ๆ


        โดยหลังจากนั้น วิลสันก็ได้ทราบว่า เจ้าดิวเป็นสุนัขชื่อดังแถวนั้นเลย ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันชอบออกมาเดินเล่นพบปะผู้คน หลังจากสนุกสนานเป็นที่พอใจแล้ว มันก็จะเดินกลับบ้านไปหาเจ้าของเองทุก ๆ วัน

          ครอบครัวที่เป็นเจ้าของเจ้าดิวเล่าให้วิลสันฟังว่า "มันชอบออกไปทักทายทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ ๆ มันชอบไปแจกความรักให้ผู้คน โชคดีที่มันฝังชิปและติด GPS ไว้ ทำให้พวกเรารู้ตลอดว่ามันไปที่ไหนบ้าง แม้จะไม่ใช้วิธีที่ช่วยให้มันปลอดภัยที่สุด แต่เราก็ดีใจที่เห็นมันมีความสุขจากการได้ออกไปเจอผู้คน"


http://pet.kapook.com/view165163.html

Thursday, January 26, 2017

วินาทีหนุ่มรัสเซียพลาดท่า ตกจากความสูง 30 เมตร เสียชีวิตด้วยวัยเพียง 20 ปี




         อุบัติเหตุสุดสยอง เมื่อชายวัยรุ่นกำลังยืนอยู่บนเส้นลวดและมือก็จับเส้นลวดอีกเส้นเพื่อทรงตัวให้ได้ ในคลิปไม่ได้เล่าหรือบอกว่าเกิดอะไรขึ้นเลย

          บอกแต่เพียงว่าเขาอายุ 20 ปี และตกลงมาจากความสูง 30 เมตร จนเสียชีวิต เป็นอีกคลิปที่ทำเอาหลาย ๆ คนต้องหวาดเสียวอย่างแน่นอน และไม่ควรเลียนแบบเลย


http://hilight.kapook.com/view/148314

Tuesday, January 24, 2017

คุณแม่ผุดความคิดใช้สติ๊กเกอร์ผีเสื้อสีม่วง หลังสูญเสียหนึ่งในทารกแฝดหลังคลอด




          สุดเศร้า คุณแม่สูญเสียหนึ่งในทารกแฝดหลังคลอดเพียงไม่นาน หลังพบลูกมีภาวะเด็กกบ จุดเริ่มต้นของการใช้สติ๊กเกอร์ผีเสื้อสีม่วง แทนสัญลักษณ์ที่สื่อทุกความหมาย

          นับเป็นข่าวที่น่ายินดีสุด ๆ สำหรับว่าที่คุณแม่เมื่อได้ทราบว่าตัวเองกำลังมีชีวิตน้อย ๆ ถึง 2 ชีวิตอยู่ในครรภ์ รอให้เราได้อุ้มชูดูแลจากนี้ แต่สำหรับ ลูอิส แคนน์ และ มิลลี่ สมิธ คู่สามีภรรยาชาวอังกฤษ พวกเขากลับตื่นเต้นกับข่าวดังกล่าวได้เพียงไม่นาน ก่อนจะทราบข่าวร้ายที่ไม่คาดฝัน เมื่อแพทย์ได้แจ้งต่อพวกเขาว่า ทารก 1 ใน 2 คน มีภาวะเด็กกบ (Anencephaly) อันเป็นภาวะพิการแต่กำเนิดที่ทารกจะไม่มีสมองและกะโหลกศีรษะ


          โดย มิลลี่ สมิธ คุณแม่ของลูกแฝด ได้เล่าย้อนถึงความทรงจำในวันนั้น ผ่านเว็บไซต์ lifebuzz.com เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2560 เผยว่า ระหว่างการสแกนดูลูกในครรภ์ แพทย์ไม่ได้พูดอะไรในขณะที่เธอกับสามีตื่นเต้นที่ได้เห็นลูกน้อย แต่เมื่อเราเห็นว่าแพทย์ยังคงเงียบ ก็รู้ได้ในทันทีว่ามันต้องมีปัญหา ซึ่งก็เป็นดังที่คาด และแพทย์ก็เผยว่า สกาย เด็กน้อยคนนี้อาจจะมีชีวิตอยู่ได้เพียงไม่กี่วินาที หรืออย่างมากก็ไม่กี่นาทีหลังคลอด

          แม้จะพวกเธอจะได้ทราบข่าวนี้ล่วงหน้า 7 เดือนก่อนคลอด แต่ก็ไม่มีอะไรทำให้พวกเขาเตรียมใจพร้อมรับความสูญเสียได้ จนกระทั่งวันที่ 30 เมษายน 2559 มิลลี่ก็ได้เข้ารับการผ่าคลอดที่โรงพยาบาลคิงส์ตัน ประเทศอังกฤษ

          เมื่อทารกน้อยเกิด พวกเธอต่างก็ส่งเสียงร้องไห้ นั่นเป็นช่วงเวลาอันแสนยิ่งใหญ่สำหรับคนเป็นแม่ ที่ได้ทราบล่วงหน้าว่าหนึ่งในลูกน้อยอาจจะไม่ส่งเสียงร้องหรือขยับตัวได้ เธอและสามียังมีเวลาได้อุ้มและอยู่กับเด็กคนนี้อีกนานถึง 3 ชั่วโมง ก่อนที่เด็กน้อยจะจากไปในอ้อมแขนของแม่ที่ใจสลาย
 

 
          แม้จะโศกเศร้าเพียงไหน แต่มิลลี่ก็ยังภาคภูมิใจในความใจสู้ของลูกน้อย ที่ยังคงต่อสู้เพื่อที่จะใช้เวลาร่วมกับพวกเธอให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะที่หลังจาก สกาย จากไปแล้ว มิลลี่ก็ยังคงต้องอยู่ที่โรงพยาบาลกับ แคลลี่ ลูกน้อยอีกคนที่ยังมีชีวิตรอด

          อย่างไรก็ตามแม้พยาบาลและแพทย์จะทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับ สกาย แต่พ่อแม่คนอื่น ๆ ที่คลอดลูกแฝดในช่วงเวลานั้นไม่มีใครทราบ และนั่นทำให้วันหนึ่งพวกเขาได้เอ่ยคำพูดที่ราวกับตอกย้ำถึงความสูญเสียของมิลลี่อย่างไม่ได้ตั้งใจ

          "ในตอนที่ลูก ๆ ของพวกเขาร้องไห้พร้อมกัน ครอบครัวนั้นหันมาบอกกับฉันว่าฉันโชคดีแล้วที่มีลูกแค่คนเดียว พวกเขาไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วฉันมีลูก 2 คน คำพูดนั้นทำให้ฉันเจ็บปวดมาก ฉันวิ่งออกจากห้องไปทั้งน้ำตาโดยที่พวกเขาไม่รู้สาเหตุ ฉันไม่อยู่ในสภาพจิตใจที่จะบอกกับเขาได้" มิลลี่ กล่าว

         ดังนั้นเพื่อไม่ให้พ่อแม่คนอื่นที่พบกับความสูญเสียต้องเผชิญเหตุการณ์เหล่านี้ มิลลี่จึงได้ออกแบบสติ๊กเกอร์รูปผีเสื้อสีม่วง สำหรับติดไว้ในเปลของทารกแรกคลอดและตู้อบ แทนสัญลักษณ์ที่จะบอกแก่เจ้าหน้าที่และผู้ปกครองคนอื่น ๆ ว่า เด็กน้อยที่นอนอยู่ในเปลหรือตู้อบนี้ คือส่วนหนึ่งในหลายชีวิตที่ลืมตาดูโลก แต่พวกเขาคนหนึ่งได้จากไปแล้ว โดยที่เธอเลือกนำผีเสื้อมาเป็นแบบ เพราะคิดว่ามันเหมาะกับการจดจำถึงทารกที่โบยบินจากไป และสีม่วงก็เหมาะกับทั้งเด็กชายและเด็กหญิง

          แม้ว่ามันจะดูเป็นสติ๊กเกอร์ธรรมดา แต่มันสื่อความหมายที่ไม่ควรมองข้าม หลังจากนั้นทางโรงพยาบาลและครอบครัวอื่น ๆ ก็ได้นำสติ๊กเกอร์นี้มาใช้เพื่อสื่อความหมายในแบบเดียวกัน ขณะที่มิลลี่และสามียังได้ร่วมกันก่อตั้งมูลนิธิสกายไฮ เพื่อให้คำปรึกษาแก่พ่อแม่ที่ต้องสูญเสียลูกน้อยระหว่างตั้งครรภ์หรือหลังคลอด เพื่อช่วยเหลือครอบครัวอื่น ๆ ในการรับมือกับเรื่องดังกล่าว

          "หลังเจอเหตุการณ์นี้มากับตัว ฉันก็คิดว่าตัวเองสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้เพื่อช่วยพ่อแม่คนอื่น ๆ ในการรับมือกับความสูญเสีย ช่วยสนับสนุน ให้คำปรึกษา รวมถึงวางแผนจัดงานศพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่มีค่าใช้จ่ายที่พ่อแม่คนใดก็ไม่สมควรจะต้องจ่าย" มิลลี่ กล่าว และเธอยังหวังอีกด้วยว่ามูลนิธินี้จะสามารถแผ่ขยายความช่วยเหลือออกไปสู่ครอบครัวอื่นทั่วโลกด้วย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก The Skye High Foundation
http://hilight.kapook.com/view/148250

พบกับ เพิร์ล จระเข้เผือกแสนสวยจอมขี้เล่น เพิ่มความมุ้งมิ้งด้วยตาสีชมพู




            มาทำความรู้จักกับ "เจ้าเพิร์ล" จระเข้เผือกเพศเมีย ดาวเด่นแห่งสวนจระเข้ฟลอริดา เพิร์ลเป็นจระเข้เผือกแท้สีขาวตลอดทั้งตัว แต่เห็นฟันยาว ๆ แหลม ๆ แบบนี้ ขี้เล่นไม่เบานะ

             ใครก็ตามที่มีโอกาสได้ไปเที่ยวสวนจระเข้เกเตอร์แลนด์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา จะได้พบเห็นจระเข้มากมายหลากสายพันธุ์จากทั่วโลก แต่มีแอลลิเกเตอร์หรือจระเข้ตีนเป็ดตัวหนึ่งที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปชมให้เห็นกับตา เจ้าตัวนั้นคือ "เพิร์ล" ดาวเด่นแห่งสวนจระเข้แห่งนี้

  
                สำหรับเจ้าเพิร์ลนั้น เป็นดาวเด่นที่ทุกคนให้ความสนใจก็เพราะมันเป็นแอลลิเกเตอร์เผือกซึ่งหาได้ยากมาก โดยจากการรายงานของเว็บไซต์เดลี่เมล เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2560 เผยว่า ในบรรดาแอลลิเกเตอร์ 1 ล้านตัว อาจจะมีเพียงแค่ 3 ตัวเท่านั้นที่มีลักษณะแบบเดียวกับเพิร์ล เพิร์ลมีดวงตาสีชมพู ทั่วทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดหางเป็นสีขาวทั้งหมด มันมาอยู่ที่สวนสัตว์แห่งนี้ตอนอายุ 3 ปี ปัจจุบันอายุ 10 ปีแล้ว มันเป็นแอลลิเกเตอร์ที่ตัวไม่ใหญ่มากนัก โดยมีความยาวแค่ 2 เมตรครึ่งเท่านั้นเอง 

 
             ด้วยความที่เพิร์ลมีรูปร่างหน้าตาแตกต่างไปจากเพื่อนพ้องร่วมสายพันธุ์ ทำให้มันไม่สามารถอาศัยอยู่ในแหล่งที่อยู่ตามธรรมชาติได้ แอลลิเกเตอร์เผือกจะหากินลำบาก เพราะพวกมันพรางตัวไม่ได้ อีกทั้งเสี่ยงต่อการถูกล่าอีกด้วย หนังของจระเข้เผือกหรือแอลลิเกเตอร์เผือกเป็นต้องการอย่างมากและมีราคาแพง กระเป๋าหนังจระเข้เผือกย่อมมีราคาสูงกว่ากระเป๋าหนังจระเข้ทั่วไป

  
            สำหรับสวนจระเข้เกเตอร์แลนด์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2492 มีจุดประสงค์หลักเพื่ออนุรักษ์สายพันธุ์จระเข้ และทางเกเตอร์แลนด์จะซื้อจระเข้จากฟาร์มหรือแหล่งอื่น ๆ เพื่อช่วยชีวิตพวกมันไม่ให้ถูกฆ่าเพื่อเอาเนื้อหรือเอาหนังไปใช้งาน และเพิร์ลก็เป็นหนึ่งในจระเข้ที่ได้รับการช่วยเหลือดูแลโดยเกเตอร์แลนด์ และมันเป็นแอลลิเกเตอร์ที่ขี้เล่นน่ารัก โดยจากในคลิปจะเห็นได้ว่า ตอนที่เจ้าหน้าที่หยอกมันเล่น มันยิ้มน่ารักด้วย (หรือแยกเขี้ยวกันแน่นะ ?) 

 
            ทั้งนี้นอกจากเจ้าเพิร์ลแล้ว ในสวนจระเข้เกเตอร์แลนด์ยังมีจระเข้เผือกตัวอื่น ๆ อีกด้วย ได้แก่ บูยาแบลน จากยลุยเซียนาและไวท์ตี้ จระเข้เผือกจากทวีปยุโรป อายุ 9 ปี

http://hilight.kapook.com/view/148237

ชมคลิป  http://hilight.kapook.com/view/148237