สะเทือนใจ
ลูกช้างเพิ่งคลอดเคลียเฝ้าแม่ไม่จากไปไหน หลังแม่ช้างถูกยิง หวังฆ่าเอางา
ด้านกองทุนช่วยเหลือสัตว์ป่าได้เข้าช่วยเหลือ แต่ยังไม่สามารถช่วยแม่ช้างได้
ยังคงเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงสำหรับการลักลอบค้างาช้าง ที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันตามพื้นที่ป่าต่าง ๆ ที่เราอาจไม่เคยทราบ แม้ทั่วโลกจะมีการรณรงค์และพยายามหามาตรการในการหยุดยั้งการฆ่าช้างเอางา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีกลุ่มคนที่ลักลอบกระทำเรื่องที่แสนโหดร้ายนี้ โดยไม่แม้แต่จะเหลียวมองถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
เพื่อให้เราได้ทราบถึงผลกระทบอันแสนเลวร้าย ซึ่งไม่ได้ส่งผลเฉพาะช้างที่ถูกฆ่าเพียงเชือกเดียวเท่านั้น ล่าสุด (27 กุมภาพันธ์ 2560) เว็บไซต์เดอะโดโด้ จึงจะพาเราได้พบกับเรื่องราวอันสุดแสนสะเทือนใจของช้างป่า แม่-ลูกคู่หนึ่ง ที่ชีวิตของพวกมันมีอันต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล จากกระสุนเพียงแค่นัดเดียว
ยังคงเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงสำหรับการลักลอบค้างาช้าง ที่เกิดขึ้นไม่เว้นแต่ละวันตามพื้นที่ป่าต่าง ๆ ที่เราอาจไม่เคยทราบ แม้ทั่วโลกจะมีการรณรงค์และพยายามหามาตรการในการหยุดยั้งการฆ่าช้างเอางา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีกลุ่มคนที่ลักลอบกระทำเรื่องที่แสนโหดร้ายนี้ โดยไม่แม้แต่จะเหลียวมองถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย
เพื่อให้เราได้ทราบถึงผลกระทบอันแสนเลวร้าย ซึ่งไม่ได้ส่งผลเฉพาะช้างที่ถูกฆ่าเพียงเชือกเดียวเท่านั้น ล่าสุด (27 กุมภาพันธ์ 2560) เว็บไซต์เดอะโดโด้ จึงจะพาเราได้พบกับเรื่องราวอันสุดแสนสะเทือนใจของช้างป่า แม่-ลูกคู่หนึ่ง ที่ชีวิตของพวกมันมีอันต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล จากกระสุนเพียงแค่นัดเดียว
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน 2556 ชาวบ้านที่อาศัยในเขตป่าของเคนยา
ได้พบเห็นช้างที่นอนบาดเจ็บอยู่บนพื้น โดยมีลูกช้างอายุ 1 ปี
6 เดือน คอยเฝ้าอยู่ข้างกายแม่ของมันไม่จากไปไหน ดังนั้นพวกเขาจึงได้แจ้งเรื่องไปยัง
กองทุนสัตว์ป่า เดวิด เชลดริก (DSWT) และหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ของเคนยา
ไวด์ไลฟ์ เซอร์วิส ซาโว ให้รีบส่งทีมมาช่วยเหลือ ซึ่งเมื่อพวกเขามาถึงก็ได้ทำการวางยาสลบคู่ช้างแม่-ลูก
เพื่อที่จะรักษาบาดแผลถูกยิงที่ขาขวาให้แม่ช้าง
สัตวแพทย์ได้ทำความสะอาดบาดแผล ให้ยาแก้ปวด ยาปฏิชีวนะ
และยาแก้อักเสบ แก่แม่ช้างแล้ว อย่างไรก็ตามเนื่องจากกระสุนที่ฝังลึกอยู่ในกระดูกที่ขา
ทำให้พวกเขาคาดการณ์ได้ว่าบาดแผลนี้จะต้องส่งผลกระทบต่อการเดินของแม่ช้างอย่างแน่นอน
ขณะที่ โรเบิร์ต แบรนด์ฟอร์ด ผู้อำนวยการของ DSWT ในสหราชอาณาจักร เผยว่าแม้จะทุ่มเททำทุกอย่างแล้ว แต่อาการของมันก็ยังเลวร้าย และแล้วสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็เกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา เมื่อแม้ช้างล้มลงแล้วไม่สามารถลุกขึ้นได้ ขณะที่ โซโงโลนิ ลูกช้างตัวน้อยยังเฝ้าอยู่ข้างตัวแม่มันตลอดเวลา คอยไล่ผู้บุกรุกทุกคนที่เข้าใกล้ คอยใช้ลำตัวของมันถูไถแม่
ขณะที่ โรเบิร์ต แบรนด์ฟอร์ด ผู้อำนวยการของ DSWT ในสหราชอาณาจักร เผยว่าแม้จะทุ่มเททำทุกอย่างแล้ว แต่อาการของมันก็ยังเลวร้าย และแล้วสิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็เกิดขึ้นในอีก 2 สัปดาห์ต่อมา เมื่อแม้ช้างล้มลงแล้วไม่สามารถลุกขึ้นได้ ขณะที่ โซโงโลนิ ลูกช้างตัวน้อยยังเฝ้าอยู่ข้างตัวแม่มันตลอดเวลา คอยไล่ผู้บุกรุกทุกคนที่เข้าใกล้ คอยใช้ลำตัวของมันถูไถแม่
โชคร้ายที่แม่ช้างซึ่งขยับตัวแทบจะไม่ได้ไม่สามารถให้นมแก่ลูกของมันได้อีก โซโงโลนิที่ขาดอาหารจึงเริ่มเหนื่อยล้าและอ่อนแอลง หน่วยช่วยเหลือจาก DSWT ได้กลับมาหามันอีกครั้ง น่าเศร้าที่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรเพื่อช่วยแม่ช้างได้อีก แต่ถึงอย่างนั้นพวกเขายังสามารถช่วยลูกช้างได้
"สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือการได้รู้ว่าเมื่อเราพบแม่ช้างที่ล้ม
ทั้งแม่ช้างและลูกช้างจะขาดอาหาร บาดแผลจากกระสุนทำให้มันไม่สามารถเคลื่อนที่ได้
ความทุกข์ทรมาน ความเจ็บปวด ความสะเทือนใจเหล่านี้ เกิดขึ้นจากกระสุนเพียงนัดเดียว
เห็นได้ชัดว่าแม่ช้างตกเป็นเป้าหมายจากคนที่ต้องการงาของมัน" โรเบิร์ต
กล่าว
เพื่อช่วยลูกช้าง พวกเขาต้องให้ยากล่อมประสาทเพื่อทำให้มันสงบ ก่อนจะส่งตัวไปยังหน่วยอภิบาลของ DSWT ซึ่งมีหน้าที่ดูแลช้างกำพร้าและสัตว์ตัวอื่น ๆ ที่สูญเสียครอบครัวไป ในตอนแรก โซโงโลนิค่อนข้างจะก้าวร้าวต่อผู้ดูแล แต่เมื่อมันได้เจอกับช้างตัวอื่น ๆ ก็ดูเหมือนจะสงบลงไป เพื่อช่วยลดความเครียดแก่มัน พวกเขาต้องนำช้างกำพร้าตัวอื่น ๆ มาอยู่ใกล้ ๆ เพื่อให้มันเริ่มรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของฝูง
เพื่อช่วยลูกช้าง พวกเขาต้องให้ยากล่อมประสาทเพื่อทำให้มันสงบ ก่อนจะส่งตัวไปยังหน่วยอภิบาลของ DSWT ซึ่งมีหน้าที่ดูแลช้างกำพร้าและสัตว์ตัวอื่น ๆ ที่สูญเสียครอบครัวไป ในตอนแรก โซโงโลนิค่อนข้างจะก้าวร้าวต่อผู้ดูแล แต่เมื่อมันได้เจอกับช้างตัวอื่น ๆ ก็ดูเหมือนจะสงบลงไป เพื่อช่วยลดความเครียดแก่มัน พวกเขาต้องนำช้างกำพร้าตัวอื่น ๆ มาอยู่ใกล้ ๆ เพื่อให้มันเริ่มรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของฝูง
นับจากวันที่กระสุนร้ายพลิกชีวิต โซโงโลนิก็ต้องอยู่ในความดูแลของ DSWT ร่วมกับช้างตัวอื่น ๆ จนกระทั่งตอนนี้เวลาผ่านไปแล้ว 4 ปี โซโงโลนิได้เข้ามาอยู่ในสถานฟื้นฟูเพื่อที่จะช่วยให้มันสามารถกลับเข้าป่าได้อีกครั้ง
มันชอบที่จะเล่นในบ่อโคลน มันสัมผัสได้ถึงเสียงเรียกจากผืนป่า และมักจะใช้เวลาอยู่กับช้างป่ามากขึ้น
"ความปรารถนาของเราคือการที่ช้างทุกตัวสามารถอยู่ในป่าได้อย่างเสรีและมีความปลอดภัย แต่ตอนนี้เราต้องพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของช้างกำพร้าใด ๆ ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันหนึ่งโซโงโลนิก็จะกลับคืนสู่ป่าและสร้างครอบครัวของมัน มนุษย์พรากชีวิตแม่ช้างไปจากมันแล้ว เราจึงมุ่งมุ่นที่จะให้มันได้มีชีวิตในป่าอีกครั้งอย่างที่มันสมควรได้รับ" โรเบิร์ต กล่าว
ภาพจาก sheldrickwildlifetrust.org
"ความปรารถนาของเราคือการที่ช้างทุกตัวสามารถอยู่ในป่าได้อย่างเสรีและมีความปลอดภัย แต่ตอนนี้เราต้องพร้อมตอบสนองทุกความต้องการของช้างกำพร้าใด ๆ ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันหนึ่งโซโงโลนิก็จะกลับคืนสู่ป่าและสร้างครอบครัวของมัน มนุษย์พรากชีวิตแม่ช้างไปจากมันแล้ว เราจึงมุ่งมุ่นที่จะให้มันได้มีชีวิตในป่าอีกครั้งอย่างที่มันสมควรได้รับ" โรเบิร์ต กล่าว
ภาพจาก sheldrickwildlifetrust.org
https://hilight.kapook.com/view/149839
No comments:
Post a Comment