หญิงชาวจีนคว้ามีดปอกผลไม้มาปาดคอเป็ดที่เพิ่งซื้อมาเลือดสาดอาบพื้นในสถานี ประชดถูกพนักงานห้ามนำสัตว์เป็น ๆ
ขึ้นรถไฟใต้ดิน
วันที่ 20 มกราคม
2559 เว็บไซต์เดลี่เมล เปิดเผยเหตุสุดสะพรึงจากมณฑลเสฉวน
ประเทศจีน โดยเหตุเกิดในสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเฉิงตูตะวันออก ในเวลาราว 10.00 น. ของวันพุธที่ผ่านมา (20 มกราคม) จู่ ๆ ก็มีหญิงชาวจีนไม่ทราบชื่อแซ่รายหนึ่ง
ได้หยิบมีดปอกผลไม้มาปาดคอเป็ดที่เพิ่งซื้อมาจนเลือดสาดกระจาย
นายหวาง
ผู้เห็นเหตุการณ์แบบจะจะต่อหน้า เล่าว่า หญิงสาวคนดังกล่าวซึ่งน่าจะมีอายุราว 20-25
ปี ได้หยิบมีดปอกผลไม้มาปาดคอเป็ดอย่างไม่ทราบสาเหตุ
จึงเข้าไปต่อว่าและถาม ว่าเหตุใดจึงฆ่าเป็ดต่อหน้าผู้โดยสารคนอื่น ๆ เช่นนี้ เป็นการกระทำที่ไม่ดีเลย
ด้านหญิงสาวให้คำตอบว่า
เธอถูกพนักงานรถไฟห้ามไม่ให้นำสัตว์ที่มีชีวิตขึ้นรถไฟไปด้วย จึงจำเป็นต้องฆ่ามันให้ตายเสียก่อน
ส่วนมีดปอกผลไม้นี้ เธอขอยืมมาจากคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ในขณะนั้น
จากภาพที่นายหวางได้ถ่ายเอาไว้ และแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์จนเป็นที่ฮือฮานั้น
ปรากฏภาพของเป็ดตัวสีดำซึ่งอยู่ในตะกร้าจ่ายตลาดสีชมพู ที่คอถูกมีดปาดจนแหว่ง
ทำเลือดไหลมาเลอะเทอะบนพื้นสถานีรถไฟ ซึ่งหญิงสาวก็ได้นำกระดาษหนังสือพิมพ์มารองเลือดของมันไว้ด้วย
ด้านพนักงานรถไฟให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า การฆ่าเป็ดในที่สาธารณะ เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย แต่พนักงานก็ยอมรับแต่โดยดี ว่าเป็นความผิดของพวกตนเองที่ไม่สามารถควบคุมผู้โดยสารให้ทำตามกฎระเบียบได้
ด้านพนักงานรถไฟให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า การฆ่าเป็ดในที่สาธารณะ เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมเอาเสียเลย แต่พนักงานก็ยอมรับแต่โดยดี ว่าเป็นความผิดของพวกตนเองที่ไม่สามารถควบคุมผู้โดยสารให้ทำตามกฎระเบียบได้
อนึ่ง ตามกฎระเบียบที่ถูกต้องในการใช้รถไฟของประเทศจีนนั้น ทั้งสิ่งมีชีวิตอย่างเป็ด และของมีคมอย่างมีดปอกผลไม้ ไม่ได้รับอนุญาตให้ผู้โดยสารนำติดตัวขึ้นรถไฟ หากฝ่าฝืนถือว่ามีโทษ แต่ทั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด ว่าหญิงนักเชือดเป็ดรายดังกล่าวจะถูกลงโทษอย่างไรบ้าง
เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้านี้ ก็เพิ่งเกิดเหตุการณ์คล้าย ๆ กันที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินเซี่ยงไฮ้ แต่เป็นคุณป้ารายหนึ่งที่นำปลามาเชือดในอ่างล้างมือของห้องน้ำสาธารณะแบบไม่ แคร์สายตาใคร ทำเอาผู้โดยสารหลายรายอึ้งกันเป็นแถบ (อ่านข่าว : ผู้โดยสารอึ้ง คุณป้าช่างกล้าหอบปลามาฆ่าในห้องน้ำสถานีรถไฟใต้ดิน)
ภาพจาก China Face by CRI / เฟซบุ๊ก China Xinhua News
http://hilight.kapook.com/view/131950
No comments:
Post a Comment