Friday, January 8, 2016

ครูสาวชาวอังกฤษ เจอพิษฟิลเลอร์เถื่อนในกรุงเทพฯ ปากพัง-แฟนทิ้ง




            ครูสาวชาวอังกฤษ เจอพิษฟิลเลอร์เถื่อนคลินิก ดังในกรุงเทพฯ ปากพัง-แฟนทิ้ง  บอกจ่ายไป 2 พัน จากปกติขายราว 2 หมื่น เผยเชื่อเพราะอ่านคอมเม้นท์ในเพจไม่ออก เนื่องจากเป็นภาษาไทย เร่งแก้ปาก หลังโดนเด็กนักเรียนล้อ

              เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2559 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ รายงานว่า อมีเลีย เกร์วิลล์ ครูสาวชาวอังกฤษ วัย 24 ปี ซึ่งเธอเป็นครูอยู่ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ได้เล่าประสบการณ์ที่ขอจำไม่ลืม เมื่อ เธอได้ซื้อฟิลเลอร์ยี่ห้อดังจากเว็บไซต์ขายของออนไลน์เว็บหนึ่งในประเทศไทย ราคา 2,600 บาท  ซึ่งถูกกว่าราคาขายที่บ้านเกิดของเธอ ที่ขายอยู่กล่องละประมาณ 21,000 บาท แต่เธอก็ไม่ได้สงสัยเกี่ยวกับราคาเท่าไรนัก เธอจึงตัดสินใจซื้อและเอาไปให้คลินิกแห่งหนึ่งฉีด นอกจากนี้ฟิลเลอร์ยี่ห้อดังกล่าวยังเป็นยี่ห้อเดียวกับที่นักแสดงสาว ไคลี่ เจนเนอร์ ใช้ฉีดริมฝีปากให้อวบอิ่มด้วย เป็นฟิลเลอร์แบบไม่ถาวร เธอจึงตัดสินใจซื้อ

 
              ทั้งนี้ หลังจากที่เธอฉีดฟิลเลอร์มาใหม่ ๆ เธอก็ปลื้มและพอใจกับปากที่อวบอิ่มอย่างมาก แต่ก็พอใจได้เพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น เพราะก้อนแข็ง ๆ 3 ก้อน เริ่มขึ้นในริมฝีปากเธอ ทำให้เธอต้องสูญเสียความมั่นใจ จนถึงต้องเลิกรากับแฟนหนุ่ม เพราะเธอไม่อยากจะจูบใครอีกเลย ตั้งแต่มีปุ่มขึ้นที่ปาก ส่วนสิ่งที่ตามมาเธอไม่สามารถเลิกเลียริมฝีปากตัวเองได้ เพราะรู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ตลอดเวลา และหากว่าเผลอไปกัดโดนเมื่อไรก็จะเจ็บมาก


             อมีเลีย เผยว่า เธอได้กลับไปยังคลินิกดังกล่าว โดยแพทย์ได้ฉีดของเหลวอีกชนิดเข้าไปที่ริมฝีปาก โดยอ้างว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ แต่ปรากฏว่าริมฝีปากกลับบวมขึ้นมาก ๆ และเด็กนักเรียนต่างก็ล้อเลียนริมฝีปากของเธอ หลังจากนั้นเธอก็ได้ไปยังคลินิกเพื่อให้รักษาอีก แต่ถูกกลับปฏิเสธการรักษาหากเธอไม่จ่ายเงินเพิ่มเติม 


              ท้ายนี้ อมีเลีย จึงรู้ว่าฟิลเลอร์ที่ถูกฉีดเข้าริมฝีปากของเธอในตอนแรกไม่ใช่ยี่ห้อดัง เหมือนที่คิดไว้ในตอนแรก และก็ไม่ทราบว่าคลินิกที่เธอไปรักษานั้นบริการน่าเชื่อถือหรือไม่ เพราะไม่สามารถอ่านความคิดเห็นต่าง ๆ ที่มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นของเพจได้เนื่องจากเป็นภาษาไทย

 
              พร้อมกันนี้ รายงานข่าวระบุอีกว่า ตอนนี้ครูสาวกำลังระดมทุนเพื่อไปผ่าตัดแก้ไขริมฝีปากให้กลับเป็นปกติอีกครั้ง คาดว่าจะใช้เงินถึง 7.5 หมื่นบาทเลยทีเดียว และหลังจากนี้เธอจะนำหลักฐานต่าง ๆ ไปแจ้งความกับตำรวจไทยเพื่อให้คลินิกดังกล่าวถูกปิดในทันที



http://women.kapook.com/view138658.html

No comments:

Post a Comment