Tuesday, December 1, 2015

เหลือเชื่อ ! ปลาทองดวงแข็ง เอาชีวิตรอดในตู้ปลานักล่าได้นานถึง 7 ปี





ปลาทองญี่ปุ่นตัว น้อยใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ ในตู้ปลาช่อนยักษ์อะเมซอนได้นานถึง 7 ปี หลังมันถูกปล่อยเพื่อเป็นอาหาร น่าทึ่งจนเจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำต้องสร้างตู้ปลาใหม่ให้เพื่อเป็น การยกย่อง

           ถ้าพูดถึงปลาทองแล้ว บางคนอาจไม่ได้เห็นค่าของมันมากมายนัก ด้วยความที่เป็นปลาหาง่ายและราคาถูก พวกมันจึงมักถูกใช้เป็นอาหารของปลากินเนื้อที่ตัวใหญ่กว่า เช่นเดียวกับเจ้าปลาทองตัวนี้ ที่ถูกนำไปปล่อยลงในตู้ของปลาอะราไพม่า หรือปลาช่อนยักษ์อะเมซอน แล้วก็ไม่มีใครสนใจพวกมันอีกเลย


             จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่งในเดือนเมษายน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ชิมะ มารีนแลนด์  ประเทศญี่ปุ่น กำลังทำความสะอาดตู้กรองน้ำของตู้ปลาช่อนยักษ์อะเมซอนอยู่นั้นเอง เขาเห็นเงาของปลาขนาดใหญ่ในบ่อกรองน้ำ ซึ่งจริง ๆ แล้วบริเวณนั้นไม่ควรจะมีปลาอะไรอาศัยอยู่เลย เขาจึงคว้าตาข่ายจับปลาและไฟฉายไปสำรวจ แล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบปลาทองตัวโตที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในนั้น


           เจ้าปลาทองสุดโชคดีตัวนี้เคยถูกปล่อยลงมาในตู้ปลาช่อนยักษ์อะเมซอนเพื่อเป็น อาหาร แต่ด้วยความดวงแข็งของมัน ทำให้มันพลัดตกลงมาในบ่อกรองน้ำที่อยู่ด้านใต้ตู้จัดแสงปลา และรอดชีวิตจากคมเขี้ยวของปลากินเนื้อดุร้ายนั้นมาได้ มันใช้ชีวิตอยู่ด้วยการกินเศษอาหารที่ผ่านเครื่องกรองน้ำ จนกระทั่งมันโตเต็มที่และมีความยาวจากหัวถึงหางประมาณ 25 เซนติเมตร

           เจ้าหน้าที่ที่พบตัวปลาทองบอกว่า มันอยู่ในสภาพสมบูรณ์ดีทุกอย่าง ไม่มีร่องรอยบาดแผลบนลำตัว ครีบ ตา หรือปาก จะมีก็แต่สีของมันที่ซีดจนเหมือนสีเหลืองมากกว่าสีทอง นั่นเป็นเพราะมันอยู่ในที่ ๆ แสงส่องไม่ถึง และด้วยสีเหลืองอ่อนนี้เอง ทำให้เจ้าหน้าที่รายอื่นที่มาทำความสะอาดตู้ปลาช่อนยักษ์อะเมซอนไม่เคย สังเกตเห็นเจ้าปลาทองตัวนี้เลย ทั้ง ๆ ที่มีการทำความสะอาดกันทุก ๆ เดือน


          คาดกันว่า เจ้าปลาทองตัวนี้น่าจะมีอายุมากกว่า 7 ปี เพราะครั้งสุดท้ายที่มีการให้อาหารปลาช่อนยักษ์อะเมซอนด้วยปลาเป็น ๆ นั้นก็เมื่อ 7 ปีที่แล้ว ก่อนที่ทางพิพิธภัณฑ์จะเปลี่ยนมาให้อาหารแบบอัดเม็ดแทน

           ตอนนี้เจ้าปลาทองกลายเป็นดาวเด่นของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไปแล้ว มันได้ว่ายน้ำอย่างมีความสุขอยู่ในตู้ปลาขนาดใหญ่ตู้ใหม่ ที่จัดแสดงนิทรรศการความรู้ต่าง ๆ เรื่องปลาทอง และเล่าเรื่องราวความโชคดีของมันให้เป็นที่ประจักษ์แก่นักท่องเที่ยวอีกด้วย
 

ภาพจาก 志摩マリンランド
http://pet.kapook.com/view135581.html

No comments:

Post a Comment