เศรษฐีชาวจีนพบเส้นทางชีวิตใหม่
ยอมทุ่มเงินหมดตัวให้กับการดูแลสถานพักพิงสุนัขจรจัดที่ เปิดมากว่า 2 ปี โดยก่อนหน้านี้เขาใช้เงินจำนวนหนึ่งไถ่ชีวิตสุนัขมาจากโรงฆ่าสัตว์
และเปลี่ยนโรงงานเหล็กของตัวเองให้เป็นสวรรค์น้อย ๆ ของสุนัขจรจัด
บางทีความสุขที่แท้จริงของคนเราอาจไม่ใช่แค่การมีเงินจนรวยล้นฟ้า แต่การทำเรื่องดี ๆ สักเรื่องก็สามารถสร้างความสุขให้เราได้เหมือนกัน เช่นเดียวกับชายชาวจีนวัย 29 ปีรายนี้ ที่เคยเป็นเศรษฐีเจ้าของกิจการโรงงานเหล็ก แต่กลับผันตัวมาเป็นเจ้าของโรงเลี้ยงสุนัขจรจัดเล็ก ๆ โดยทุ่มเงินที่มีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
บางทีความสุขที่แท้จริงของคนเราอาจไม่ใช่แค่การมีเงินจนรวยล้นฟ้า แต่การทำเรื่องดี ๆ สักเรื่องก็สามารถสร้างความสุขให้เราได้เหมือนกัน เช่นเดียวกับชายชาวจีนวัย 29 ปีรายนี้ ที่เคยเป็นเศรษฐีเจ้าของกิจการโรงงานเหล็ก แต่กลับผันตัวมาเป็นเจ้าของโรงเลี้ยงสุนัขจรจัดเล็ก ๆ โดยทุ่มเงินที่มีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
วันที่ 23 ตุลาคม 2558 เว็บไซต์ Oddity Central นำเสนอเรื่องราวสุดซาบซึ้งใจของนายหวัง หยาง เศรษฐีเจ้าของโรงงานเหล็ก อายุ 29 ปี ซึ่งเมื่อ 3 ปีที่แล้ว นายหยางได้ออกตามหาสุนัขของเขาที่หลุดออกจากบ้านไป แต่ทำอย่างไรก็หาไม่พบ จนกระทั่งมีคนแนะนำให้ลองไปดูที่โรงฆ่าสัตว์ และที่นั่นเองเขาก็ได้พบกับภาพที่น่าช็อก
นายหยางไม่พบสุนัขของเขาที่นั่น แต่เขาพบสุนัขที่ถูกแขวนคอเป็นร้อย ๆ
ตัว รวมถึงยังเห็นสุนัขอีกจำนวนมากถูกฆ่าอย่างเลือดเย็น นายหยางทนดูภาพอันโหดร้ายต่อไปไม่ไหว
จึงขอใช้เงินซื้อสุนัขทุกตัวที่ยังมีชีวิตเพื่อให้รอดพ้นจากการตกเป็นอาหาร ของมนุษย์
หลังจากนั้นเป็นต้นมา หยางก็ยังคงเที่ยวซื้อสุนัขจากโรงฆ่าสัตว์ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพบว่าตอนนี้เขามีสุนัขอยู่เต็มบ้านไปหมด จึงตัดสินใจเลิกกิจการโรงงานเหล็กและดัดแปลงให้กลายเป็นสถานที่รับเลี้ยง สุนัขจรจัด พร้อมกับตั้งชื่อสถานที่นี้ใหม่ว่า “ศูนย์พิทักษ์สัตว์ฉางชุน”
หลังจากนั้นเป็นต้นมา หยางก็ยังคงเที่ยวซื้อสุนัขจากโรงฆ่าสัตว์ไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพบว่าตอนนี้เขามีสุนัขอยู่เต็มบ้านไปหมด จึงตัดสินใจเลิกกิจการโรงงานเหล็กและดัดแปลงให้กลายเป็นสถานที่รับเลี้ยง สุนัขจรจัด พร้อมกับตั้งชื่อสถานที่นี้ใหม่ว่า “ศูนย์พิทักษ์สัตว์ฉางชุน”
ภายในเวลา
3 ปีที่ผ่านมา หยางช่วยชีวิตสุนัขมามากกว่า 1,000 ตัวแล้ว
พวกมันส่วนใหญ่ต่างได้รับการอุปการะไปอยู่บ้านหลังใหม่ หลงเหลือสุนัขอยู่ที่นี่อีกราว
215 ตัว ซึ่งพวกมันก็ได้รับการช่วยชีวิตจากโรงฆ่าสัตว์เช่นกัน
โดยมีผู้ใจบุญและอาสาสมัครหลายรายช่วยกันสอดส่องดูแลและพาพวกมันมาที่นี่
แน่นอนว่าการดูแลสุนัขจำนวนมากต้องใช้เงินมหาศาล นายหยางเองก็เช่นกัน หลังจากทุ่มเงินไปกับการช่วยชีวิตสุนัขจนกระทั่งหมดตัว ทำให้ตอนนี้เขากำลังเป็นหนี้ก้อนโตเลยทีเดียว แต่นายหยางบอกว่าเขาไม่รู้สึกเสียใจ ความกังวลหนึ่งเดียวของเขาในตอนนี้คือการทำให้เจ้าตูบเหล่านี้ได้มีที่อยู่ อันอบอุ่น ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
แน่นอนว่าการดูแลสุนัขจำนวนมากต้องใช้เงินมหาศาล นายหยางเองก็เช่นกัน หลังจากทุ่มเงินไปกับการช่วยชีวิตสุนัขจนกระทั่งหมดตัว ทำให้ตอนนี้เขากำลังเป็นหนี้ก้อนโตเลยทีเดียว แต่นายหยางบอกว่าเขาไม่รู้สึกเสียใจ ความกังวลหนึ่งเดียวของเขาในตอนนี้คือการทำให้เจ้าตูบเหล่านี้ได้มีที่อยู่ อันอบอุ่น ท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บในฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
ถึงแม้ว่าเขาจะใช้เงินจนหมดตัว
ประสบภาวะหนี้สิน และเผชิญหน้ากับปัญหาหลายอย่าง
แต่หยางไม่ต้องการให้ใครมาเห็นใจหรือสงสาร เขาไม่ต้องการรับเงินไม่ว่าจะเป็นจำนวนน้อยแค่ไหนก็ตาม
เขาต้องการเพียงแค่สิ่งของบริจาคที่จะช่วยเหลือให้สุนัขเหล่านี้สามารถรอด ชีวิตไปได้
โดยเฉพาะตอนนี้เขาต้องการวัสดุและอุปกรณ์ช่างเพื่อนำมาสร้างที่อยู่ที่ อบอุ่นกว่านี้สำหรับเจ้าตูบ
ทั้งนี้ สุนัขจรจัดถือเป็นปัญหาสำคัญในหลาย ๆ พื้นที่ของประเทศจีน และพวกมันส่วนใหญ่มักถูกจับไปฆ่า ทั้งจากทางการที่คอยควบคุมสัตว์และโรงฆ่าสัตว์ที่ขายเนื้อสุนัข
ภาพจาก
Sina
http://pet.kapook.com/view135121.html
No comments:
Post a Comment