เผยภาพถ่ายน่าสนใจจากดาวอังคาร
Mawrth
Vallis พื้นผิวที่ครั้งหนึ่งเคยมีน้ำไหลผ่านในปริมาณมาก ชี้ดาวอังคารเคยเป็นดาวอาศัยได้เมื่อ
3.6 พันล้านปีก่อน
องค์การอวกาศยุโรป (ESA) เผยภาพนี้ออกมาเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2559 ระบุว่า ภาพถ่ายสีจากพื้นผิวดาวอังคารภาพนี้ เป็นภาพถ่ายบริเวณหุบเขาที่เรียกว่า Mawrth Vallis หนึ่งในเขตหุบเขาที่กว้างที่สุดบนดาวอังคาร และปรากฏร่องรอยการไหลของน้ำ ย้ำให้เห็นว่าครั้งหนึ่งดาวอังคารมีน้ำและน่าจะเอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิต มีสภาวะแวดล้อมที่อาศัยได้
สำหรับภาพถ่ายดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ 330,000 ตารางกิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์เผยว่าร่องรอยการไหลของน้ำดังกล่าว กำลังบอกเราว่าครั้งหนึ่งเคยมีน้ำไหลผ่านบริเวณนี้ในปริมาณมาก และนอกจากสภาพพื้นที่แล้ว การพบหลักฐานกลุ่มแร่ฟิลโลซิลิเกตบนพื้นผิว ก็ยังเป็นอีกหนึ่งอย่างที่บ่งชี้ว่าดาวอังคารเคยมีน้ำในรูปแบบของเหลว และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีสภาพอาศัยได้ในช่วงก่อน 3.6 พันล้านปีที่ผ่านมา
รายงานยังระบุด้วยว่า พื้นหินที่เปื้อนสีดำบนดาว ซึ่งเกิดจากเถ้าถ่านภูเขาไฟในอดีต ถูกปกคลุมไปด้วยดินซึ่งอาจจะช่วยปกป้องจุลชีพดึกดำบรรพ์จากรังสีและการกัดกร่อน และนั่นทำให้ Mawrth Vallis เป็นหนึ่งในพื้นที่บนดาวอังคารที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับนักธรณีวิทยาและนักชีวดาราศาสตร์ นอกจากนี้ก็ยังเป็นพื้นที่เป้าหมายในการลงจอดของโครงการ ExoMars 2020 ซึ่งเป็นโครงการสำรวจชีวิตบนดาวอังคารขององค์การอวกาศยุโรปและรัสเซียด้วย
องค์การอวกาศยุโรป (ESA) เผยภาพนี้ออกมาเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2559 ระบุว่า ภาพถ่ายสีจากพื้นผิวดาวอังคารภาพนี้ เป็นภาพถ่ายบริเวณหุบเขาที่เรียกว่า Mawrth Vallis หนึ่งในเขตหุบเขาที่กว้างที่สุดบนดาวอังคาร และปรากฏร่องรอยการไหลของน้ำ ย้ำให้เห็นว่าครั้งหนึ่งดาวอังคารมีน้ำและน่าจะเอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิต มีสภาวะแวดล้อมที่อาศัยได้
สำหรับภาพถ่ายดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่ 330,000 ตารางกิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์เผยว่าร่องรอยการไหลของน้ำดังกล่าว กำลังบอกเราว่าครั้งหนึ่งเคยมีน้ำไหลผ่านบริเวณนี้ในปริมาณมาก และนอกจากสภาพพื้นที่แล้ว การพบหลักฐานกลุ่มแร่ฟิลโลซิลิเกตบนพื้นผิว ก็ยังเป็นอีกหนึ่งอย่างที่บ่งชี้ว่าดาวอังคารเคยมีน้ำในรูปแบบของเหลว และมีความเป็นไปได้ว่าจะมีสภาพอาศัยได้ในช่วงก่อน 3.6 พันล้านปีที่ผ่านมา
รายงานยังระบุด้วยว่า พื้นหินที่เปื้อนสีดำบนดาว ซึ่งเกิดจากเถ้าถ่านภูเขาไฟในอดีต ถูกปกคลุมไปด้วยดินซึ่งอาจจะช่วยปกป้องจุลชีพดึกดำบรรพ์จากรังสีและการกัดกร่อน และนั่นทำให้ Mawrth Vallis เป็นหนึ่งในพื้นที่บนดาวอังคารที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับนักธรณีวิทยาและนักชีวดาราศาสตร์ นอกจากนี้ก็ยังเป็นพื้นที่เป้าหมายในการลงจอดของโครงการ ExoMars 2020 ซึ่งเป็นโครงการสำรวจชีวิตบนดาวอังคารขององค์การอวกาศยุโรปและรัสเซียด้วย
http://hilight.kapook.com/view/142700
No comments:
Post a Comment