เปิดคดีสาวสังหารโหดแฟนหนุ่ม หลอกให้เขามัดตัวเองกับเตียงตอนมีเซ็กส์ ก่อนคว้าเลื่อยสังหาร-ตัดหัว ปิดซ่อนได้นานถึง 9 ปี ก่อนเรื่องแดง
วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2560 เว็บไซต์ news.com.au มีรายงานถึงคดีฆาตกรรมสุดโหดที่ศาลในเยอรมนีได้เริ่มการไต่สวนคดี เพื่อตัดสินโทษต่อหญิงวัย 32 ปี ที่ไม่เปิดเผยชื่อ ภายหลังจากที่เธอได้ก่อเหตุสังหารแฟนหนุ่มด้วยเลื่อยไฟฟ้า เมื่อ 9 ปีก่อน
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2551 สาวรายนี้ได้แกล้งขอให้แฟนของเธอมัดมือทั้ง 2
ข้างของเขาไว้กับเตียง ในขณะที่มีเพศสัมพันธ์กัน แต่แทนที่เธอจะมอบความสุขสมให้กับเขา
เธอกลับนำเลื่อยไฟฟ้าออกมาสังหารเขาจนถึงแก่ความตาย และใช้เลื่อยนั้นเองตัดหัวของเขาออกมา
ก่อนที่เธอจะซ่อนหลักฐานทั้งหมดรวมถึงนำร่างของผู้ชายไปซ่อนไว้ใต้หลังคาของแฟลตนักเรียน
ที่ทั้งคู่อาศัยอยู่ร่วมกันในเมืองมิวนิค
เรื่องดังกล่าวถูกเก็บไว้เป็นความลับ จนกระทั่งในปีต่อมาแฟนคนใหม่ของเธอได้บังเอิญไปพบศพเข้า ขณะเดินตามหาแมวที่ฝ่ายหญิงฝากไว้ให้ดูแล แต่แทนที่เขาจะนำเรื่องไปแจ้งความ กลับเลือกที่จะช่วยเธอปกปิดความผิดด้วยการช่วยฝ่ายหญิงนำศพไปฝัง โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้สมรู้ร่วมคิดอีกราย
เรื่องดังกล่าวถูกเก็บไว้เป็นความลับ จนกระทั่งในปีต่อมาแฟนคนใหม่ของเธอได้บังเอิญไปพบศพเข้า ขณะเดินตามหาแมวที่ฝ่ายหญิงฝากไว้ให้ดูแล แต่แทนที่เขาจะนำเรื่องไปแจ้งความ กลับเลือกที่จะช่วยเธอปกปิดความผิดด้วยการช่วยฝ่ายหญิงนำศพไปฝัง โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้สมรู้ร่วมคิดอีกราย
อย่างไรก็ตามในที่สุดการฆาตกรรมของเธอก็ถูกเปิดโปงจนได้
ภายหลังมีคนใกล้ชิดรายหนึ่งของเธอได้ทราบเรื่องเข้า แล้วนำมาแจ้งตำรวจให้เข้าดำเนินคดี
นำมาสู่การไต่สวนในชั้นศาลเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์
ด้านอัยการคาดว่า คดีฆาตกรรมครั้งนี้อาจมีแรงจูงใจจากความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นระหว่างผู้ต้องหาและผู้ตาย ที่มักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ แถมฝ่ายชายยังชอบทำร้ายจิตใจของเธอด้วย
ทั้งนี้หญิงผู้ก่อเหตุก็ได้ยอมรับสารภาพในความผิดที่เธอได้ทำลงไป แต่ร้องขอให้มีการนัดฟังคำพิพากษาอย่างเป็นส่วนตัวหลังจากนี้
ด้านอัยการคาดว่า คดีฆาตกรรมครั้งนี้อาจมีแรงจูงใจจากความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นระหว่างผู้ต้องหาและผู้ตาย ที่มักจะมีปากเสียงกันเป็นประจำ แถมฝ่ายชายยังชอบทำร้ายจิตใจของเธอด้วย
ทั้งนี้หญิงผู้ก่อเหตุก็ได้ยอมรับสารภาพในความผิดที่เธอได้ทำลงไป แต่ร้องขอให้มีการนัดฟังคำพิพากษาอย่างเป็นส่วนตัวหลังจากนี้
No comments:
Post a Comment