โมเม้นท์คาบเกี่ยวความตายของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวชาวอังกฤษ
ที่รถคว่ำเจ็บหนักอาการขั้นโคม่า แม้แต่แพทย์ยังไม่กล้ายืนยันว่าจะรอด แต่ฟื้นขึ้นมาได้จากการหมดสติยาวครึ่งเดือน
เพราะเสียงเจื้อยแจ้วของลูกชายถูกเปิดซ้ำ ๆ
ข้างหู ผมปลอดภัยนะแม่ แม่ต้องเชื่อหมอนะจะได้ฟื้นไว ๆ ผมรักแม่ฮะ
นับตั้งแต่วินาทีที่ผู้หญิงคนหนึ่งได้กลายเป็นแม่คน ชีวิตที่เหลือนับจากนั้นก็เป็นการอยู่เพื่อลูกทุก ๆ ลมหายใจ ลูกคือสิ่งที่ให้ความหวัง ให้กำลังใจ และเป็นดังเข็มทิศนำทางชีวิตให้เอาชนะทุกปัญหาที่เผชิญ แม้แต่ในยามวิกฤตที่เผชิญหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างความเป็นกับความตาย สิ่งทีกล่าวมานี้ไม่มีอะไรเกินเลยความจริงไปสักนิด สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวชาวอังกฤษวัย 34 ปี จากเมืองแฮมป์เชียร์ นางแดเนียล บาร์ทลีย์
เว็บไซต์มิเรอร์ เผยเรื่องราวของนางแดเนียล ที่จะสั่นคลอนหัวใจไปกับความรักความผูกพันแสนแนบแน่นและทรงพลังระหว่างแม่ กับลูก ไว้ในรายงานเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2559 โดยย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายน 2557 แดเนียลประสบอุบัติเหตุทางถนนอย่างรุนแรงจากเหตุฝนตกหนักถนนลื่น ขณะขับรถกลับจากไปส่งอีธาน ลูกชายวัย 6 ขวบ ที่โรงเรียน รถของเธอพลิกคว่ำหลายตลบ จนซากรถบุบบี้ยับเยินไม่แพ้สภาพของตัวเธอเอง ที่แขนขวากระดูกแตกแหลกละเอียด คอหัก กระดูกสันหลังหักอีกหลายท่อน
แดเนียลเล่าย้อนว่าในวินาทีที่รถพลิกหมุนหลายตลบนั้นมันเกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น
แต่ในหัวของเธอราวกับช่วงเวลานั้นแสนนาน จนความคิดความกังวลต่าง ๆ
ได้กระหน่ำพรั่งพรูเข้ามา และทุกเรื่องล้วนแต่เป็นเรื่องของอีธานทั้งสิ้น อีธานเป็นเด็กมีภาวะออทอสติก
ที่ทั้งรักและติดเธอมาก สิ่งที่อยู่ภายในหัวมีแต่เรื่องลูกจะเป็นยังไงต่อไป ใครจะบอกเรื่องนี้กับเขา
ใครจะดูแลเขาต่อจากนี้ ฯลฯ มันเป็นความกังวลและหวาดกลัวที่สุดที่เกิดขึ้นในชั่ววินาทีนั้น
แดเนียลได้รับการช่วยเหลือออกจากซากรถได้ในสภาพสาหัส
เธอยังคงรู้สึกตัวดี แต่ด้วยอาการบาดเจ็บสาหัสและเสียเลือดหนักมาก แพทย์จึงให้ยาชนิดออกฤทธิ์แรงจนเธอผล็อยหมดสติไป
และเกือบจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกแล้วด้วยซ้ำ เพราะอาการของเธอเข้าขั้นโคม่าและร่างกายก็บอบช้ำเหลือเกิน
แดเนียล หมดสติไปแบบไม่มีที่ท่าจะรู้ตัว แม้ทีมแพทย์จะลงมือผ่าตัดรักษาช่วยชีวิตเธออย่างสุดความสามารถ พ่อและแม่ของแดเนียล และเพื่อนสนิทของเธอ คอยเฝ้าดูอาการเธอด้วยความหวังให้มีปาฏิหาริย์ช่วยให้เธอฟื้นกลับขึ้นมาได้ และใครจะเชื่อว่าในที่สุดปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง ๆ เป็นปาฏิหาริย์จากเสียงน้อย ๆ ของอีธาน ที่เรียกคุณแม่ของเขากลับมา
แดเนียล หมดสติไปแบบไม่มีที่ท่าจะรู้ตัว แม้ทีมแพทย์จะลงมือผ่าตัดรักษาช่วยชีวิตเธออย่างสุดความสามารถ พ่อและแม่ของแดเนียล และเพื่อนสนิทของเธอ คอยเฝ้าดูอาการเธอด้วยความหวังให้มีปาฏิหาริย์ช่วยให้เธอฟื้นกลับขึ้นมาได้ และใครจะเชื่อว่าในที่สุดปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นจริง ๆ เป็นปาฏิหาริย์จากเสียงน้อย ๆ ของอีธาน ที่เรียกคุณแม่ของเขากลับมา
แดเนียลเล่าย้อนไปถึงส่งที่เกิดขึ้นในช่วงนั้นว่า
ระหว่างที่เธอหมดสติไป เพื่อนสนิทของเธอและคุณพ่อคุณแม่ได้ช่วยดูแลอีธานแทนให้ โดยไม่กล้าให้เขามาเยี่ยมที่โรงพยาบาลเลย
เพราะกลัวจะช็อกหากเห็นแม่อยู่ในสภาพร่อแร่ขนาดนั้น โดยอีธานก็ยังคอยถามทุก ๆ
วันว่า แม่ผมหายไปไหนฮะ แม่จะตายหรือเปล่า
จนในที่สุด ด้วยความพยายามทุกทางเพื่อช่วยให้เธอฟื้นขึ้นมา แม่ของเธอได้อัดเสียงของอีธานที่ส่งมาถึงเธอโดยเฉพาะ
ว่า "แม่ฮะ ผมอยู่กับแนนนี่ ผมปลอดภัยดีครับ แม่ต้องทำตามที่หมอบอกนะฮะ
จะได้หายไว ๆ แล้วก็ฟื้นขึ้นมาเร็ว ๆ นะครับ ผมรักแม่นะ"
ข้อความเสียงนี้ถูกเปิดซ้ำ ๆ ข้างหูเธอทุก ๆ วัน และแล้วในวันที่ 16 นับตั้งแต่ถูกส่งมาโรงพยาบาล เธอก็ฟื้นขึ้นมาอย่างปาฏิหาริย์
แดเนียลบอกว่าสิ่งเดียวที่เธอจำได้
ในระหว่างที่หมดสติไป คือเสียงข้อความเจื้อยแจ้วของอีธานที่ดังก้องซ้ำ ๆ อยู่ในหู และมันดึงเธอให้ฟื้นขึ้นมา ให้กลับมาทำหน้าที่แม่ที่เธอแสนรัก มาเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของลูกดังเช่นที่เคยเป็นมา
ลูกจะขาดเธอไม่ได้ เพราะเธอรู้ดีกว่าสำหรับอีธานแล้ว เธอคือโลกทั้งใบของเขา
ในตอนนี้ แดเนียลได้ออกจากโรงพยาบาลมาใช้ชีวิตเช่นปกติดังเดิมแล้ว แม้จะต้องเสียแขนไปหนึ่งข้าง และมีปัญหาไม่สามารถขยับคอได้ดีอันเป็นผลจากการบาดเจ็บ
ในตอนนี้ แดเนียลได้ออกจากโรงพยาบาลมาใช้ชีวิตเช่นปกติดังเดิมแล้ว แม้จะต้องเสียแขนไปหนึ่งข้าง และมีปัญหาไม่สามารถขยับคอได้ดีอันเป็นผลจากการบาดเจ็บ
"หลัง อุบัติเหตุตอนนั้น ทุก ๆ
คืนฉันมักตื่นมาเจออีธานมานอนขดบนเตียงด้วย เขาดูค่อนข้างกังวลกับฉันมาก และยังมีอาการตระหนกอยู่ทุกครั้งที่ฝนตก...ส่วนฉันเองก็มีความทรงจำผุดวูบ
ขึ้นมาเป็นครั้งคราว แต่สิ่งที่ฉันมั่นใจคือมันเป็นเสียงของอีธานที่พาฉันกลับมา แม้แต่ตอนนี้ฉันยังเปิดเทปนั้นฟังอยู่ทุก
ๆ วันเลยค่ะ" แดเนียล กล่าว
http://hilight.kapook.com/view/137841
No comments:
Post a Comment